วิธีติดตั้ง Aruba Access Point เข้า Controller พร้อมการใส่ License ตลอดชีพ

How to configure Aruba Controller 7010

Instant AP Stand-Alone Mode Join To Controller

Aruba Network ได้รับการยอมรับจากหลายบริษัทว่าเป็น Enterprise AP ที่ติดตั้งง่าย ทั้งความสามารถในการปล่อยสัญญานที่ทางไอทีแทบจะไม่ต้องตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติม เพราะ OS ใหม่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับ Automation ทั้งการคำนวณช่องสัญญานที่ถูกรบกวน หรือ ความแออัด รัศมี-ระยะห่าง การเลือกสัญญานที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้ การสร้าง Tunnel VLAN ที่แสนง่าย และอื่นๆ อีกมาก แต่ที่โดดเด่นที่สุดเลยคือเรื่อง License เพราะ Aruba นั้นเป็นการขายขาดเรื่อง License ไปเลย เรียกได้ว่า ไม่พัง ไม่ต้องเปลี่ยน ซึ่งก็จะทำตรงกันข้ามกับ Cisco AP เช่น Cisco Catalyst ที่จะต้องมีการต่อ License ผ่าน DNS Software 3, 5, 7 ปี ตามต้องการ

แต่ ไม่ใช่ว่า Cisco AP รุ่นใหม่ๆ ไม่ Automation นะครับ เพราะ Access Point ทุกยี่ห้อแทบจะ Auto Config มาให้เสร็จแล้ว เรามีหน้าที่เพียง Join AP เข้ามายัง Controller หรือ Cloud Base และทำ Interface, Tunnel, SSID, VLAN, AAA ต่างๆ ก็ใช้งานได้ดีเช่นกันครับ ซึ่งแน่นอนระบบจะดีไม่ดีอยู่ที่การออกแบบ Wi-Fi ครับ โดยเน้นเลยว่าให้หลบช่อง Radar หรือ DFS Channel หรือ ปิดช่องสัญญานนี้ไปเลยครับ เพื่อไม่ให้เวลามีสัญญาน Radar ยิงมา AP จะทำการเปลี่ยน Channel บ่อยๆ มันจะทำให้ User หลุดการเชื่อมต่อได้

Note: (เฉพาะ Controller OS Version 8.X ขึ้นไป ถ้าเป็น OS Version 6 ลงมาระบบยังไม่ User Friendly)

ขั้นตอนการติดตั้ง

จากภาพที่ 1

ทำการเสียบสาย USB เข้าเครื่องของเรา
ในที่นี้ใช้สาย Console ของ Ugreen 50773 Download Driver ที่นี่ ซื้อที่ Shopee

ภาพที่ 1

ภาพที่ 2

จากภาพที่ 2

เสียบสายอีกฝั่งเข้า Aruba Controller 7010 ช่อง Console

ภาพที่ 3

จากภาพที่ 3

ในตัวอย่างใช้ Aruba AP-505 รุ่นเล็กตามความเหมาะสมของสถานที่และงบประมาณ

ภาพที่ 4

จากภาพที่ 4

ต่อ AP เข้ามาที่ Switch PoE ได้เลยในที่ใช้ Huawei รุ่น S5735 ทั้ง L2 และ L3 ทั้งระบบ
ซึ่งบอกเลยว่า Huawei Switch ใช้งานได้ดีครับ ติดมาหลาย Site ไม่มีปัญหาเลย
การตั้งค่าบน Huawei Switch ที่ต่อเข้ากับ Access Point นั้นทำแค่นี้ครับ

int range gi 0/0/1 to gi 0/0/21
port link-type access
port default vlan 479

ไม่ต้อง ทำแบบเดิมที่จะต้องทำเป็น Port Trunk และ Native VLAN ครับ เพราะ Aruba จะสร้าง CAPWAP Tunnel คือการห่อหุ้ม Package VLAN, DATA ต่างๆ ส่งตรงไปยัง Access Point กับ Controller ได้เลย และปลอดภัยแน่นอนเพราะ CAPWAP จะถูกใช้คู่กับ (DTLS) Datagram Transport Layer Security ซึ่งการเข้ารหัสนี้จะปิดหรือเปิดก็ไม่ค่อยมีผลอะไรกับระบบครับ
ส่วน Port Uplink ทำเป็น Trunk All VLAN ง่ายๆ ไปเลยครับ

ภาพที่ 5

จากภาพที่ 5

เปิดโปรแกรม Putty
เลือก Serial
ใครใช้ Putty ไม่เป็นอ่าน บทความนี้ นะครับ

ภาพที่ 6

จากภาพที่ 6

เราอยู่ในหน้า Putty หรือ Console แล้ว
พิมพ์ full-setup
พิมพ์ yes

ภาพที่ 7

จากภาพที่ 7

ตั้งชื่อ Controller
ตั้งโหมดเป็น Standalone
ตั้ง Controller VLAN ที่ใช้ส่ง DATA
ตั้ง Port สำหรับส่ง DATA
ตั้งเป็นโหมด trunk
ตั้ง Native VLAN สำหรับ Management
พิมพ์ yes
ใส่ IP Management
ใส่ Sub netmask
ใส่ Gateway
ใส่ DNS
กด no ไม่ตั้งค่า IPv6

ภาพที่ 8

จากภาพที่ 8

พิมพ์ TH
พิมพ์ yes
กด Enter
กด Enter
ตั้งรหัสใหม่ สำหรับเข้า Controller 7010
พิมพ์ yes เพื่อ Save ระบบจะ reboot

ภาพที่ 9

ขั้นตอนการใส่ License

จากภาพที่ 9

เมื่อ Reboot แล้ว
พิมพ์ config t
พิมพ์ license add xxxxxxxx-xxxxxxxx-xxxxxxxx ที่คุณได้ซื้อมา
กด Enter เสร็จ
พิมพ์ show license จะเห็นว่าเป็นแบบ Never Expires

ภาพที่ 10

จากภาพที่ 10

เข้าหน้า Web GUI
ใส่ IP [Port]
ไปที่ Configuration
เลือก Interface
ทำ Port ที่ต้องการให้เป็น Trunk เพื่อใช้ รับ-ส่ง ข้อมูลกับ AP

ภาพที่ 11

จากภาพที่ 11

ทำการ Add Access Point White List ที่จะนำมาใช้ในระบบ
ไปที่ Configuration
เลือก Access Point
แทบ Whitelist
Add ด้วย Mac address ระบบจะมีรูปแบบการ Add ให้

ภาพที่ 12

จากภาพที่ 12

ไปที่ Configuration
เลือก Services
แทบ DHCP
ติ๊กเปิดใช้ DHCP เพื่อแจกให้กับ Access Point
สร้าง DHCP Pool ขึ้นมาใหม่ตามต้องการ

หมายเหตุ: กรณีมี DHCP อยู่แล้วให้ทำการ Tag VLAN ที่ Switch ได้เลย ตัว AP จะวิ่งไปขอ DHCP ตาม VLAN นั้นๆ ได้เอง สำคัญที Controller จะต้องมี VLAN ของ DHCP วงนั้นด้วย