ไม่ใช่เพียงในด้านอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ กองทัพในหลายประเทศก็กำลังเปลี่ยนผ่านสู่การรบด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติที่ไม่ได้ใช้มนุษย์ในการเข้าทำการรบโดยตรงอีกต่อไป ซึ่งจริงๆแล้วเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ต, หุ่นยนต์, โดรน, ฯลฯ ก็มาจาก R&D ในการทหารทั้งสิ้น
สหรัฐฯ มุ่งพัฒนาฝูงบิน Drone เพื่อการโจมตีรูปแบบใหม่ ซึ่งการใช้กำลังทหารโดยตรงกำลังจะล้าสมัยสำหรับการทำสงครามในอนาคต โดยสหรัฐฯ มีแผนทุ่มงบประมาณมหาศาลในการพัฒนา
Drone Warfare
จากรายงานของ The New America Foundation เปิดเผยว่า กองทัพของประเทศที่ใช้ Drone เพื่อการปฏิบัติการทางทหาร เช่น สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, จีน, อิสราเอล, ปากีสถาน, อิหร่าน, อิรัก, ไนจีเรีย, โซมาเลีย, แอฟริกาใต้ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Drone ทางทหาร ถือว่ากำลังเป็น Mega trend ในระดับยุทธศาสตร์ทางทหารของหลายประเทศ เนื่องจากภัยคุกคามจากการพัฒนาอาวุธที่ติดกับ Drone ของจีน ทำให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ติดตั้งปืนเลเซอร์เพื่อเป็นอาวุธต่อสู้อากาศยาน (Anti-Drone) บนเรือพิฆาตในภาคพื้นมหาสมุทร Asia Pacific และได้ทำการทดสอบเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว และการทดสอบก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งปืนเลเซอร์ดังกล่าวใช้เพื่อต่อต้านอากาศยาน และเรือของข้าศึกในระยะใกล้ 1-5 ไมล์
การโจมตี cyber attack ถือเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของการยุทธ์ของกองทัพยุคดิจิทัล โดยก่อนใช้กำลังทหาร และยานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติทั้งอากาศรวมทั้งภาคพื้นดินเพื่อเข้าดำเนินกลยุทธ์ เช่น สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยก่อนรัสเซียเคลื่อนกำลังผ่านชายแดนเพื่อเข้ายึดยูเครน รัสเซียได้ทำการโจมตีโดยปิดระบบสื่อสารด้วย cyber attack แล้วจึงเข้า hack โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อตัดไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศยูเครน
กองทัพบกสหรัฐฯ วางยุทธศาสตร์ด้านยุทธภัณฑ์อัตโนมัติ ซึ่งจะต้องมียานรบขับเคลื่อนแบบกึ่งอัตโนมัติภายในปี 2023 และจะต้องขับเคลื่อนด้วยยานรบและยุทธภัณฑ์แบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ 100% ภายในปี 2035
กองทัพสหรัฐฯ กำลังพัฒนา Drone ขนาดเล็กมาก PD-100 Black Honet (microdrone) มีน้ำหนัก 18 กรัม โดยจะนำมาใช้ในหน่วยปฏิบัติการรบพิเศษของนาวิกโยธิน (Marine) เพื่อการสอดแนมและการตรวจตราพลซุ่มยิง (sniper) ของฝ่ายตรงข้าม
กองทัพอิสราเอล (The Israel Defense Forces; IDF) กำลังมุ่งมั่นในการสร้างนักรบไซเบอร์ (cyber warrior) โดยพวกเขาเชื่อว่าขีดความสามารถของกองทัพในยุคต่อไปได้เปลี่ยนไปจากการรบด้วยการใช้กำลังทหารไปเป็นการใช้เทคโนโลยีแล้ว ซึ่ง IDF ได้ตั้ง Cyber Command (มีศักดิ์เท่ากับกองทัพภาคของไทย) ขึ้นมาเพื่อเป็นหน่วยที่มีการปฏิบัติเฉพาะในด้าน Cyber warfare ในปี 2009 ซึ่งตั้งขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับสหรัฐฯ
อ้างอิง:
thaiitspace.blogspot,
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
เรียบเรียงโดย
Benjaman,
ITCould Fanpage
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น